วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ย้อมเปลือกมังคุด

เมื่อสามอาทิตย์ที่แล้ว พี่ชายลูกป้าส่งผลไม้เมืองจันท์มาให้ มีทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง อย่างละกระบะสองกระบะ โดยฝากพ่อค้าผลไม้ที่ไปรับเอามาจากสวนที่เมืองจันทบุรี ....ฤดูนี้ หน้านี้อุดมสมบูรณ์ด้วยผลไม้เป็นหนักหนา อร่อย สดด้วยตามฤดูกาล เรากะจะกินให้สิ้นซากหมดทุกกระบะ แต่ก็เอะใจว่าถ้าให้มันย่อยในกระเพาะ หรือเอาเปลือกเอาเม็ดไปทำเป็นปุ๋ยก็จะเสียชื่อคนย้อมสีธรรมชาติ เลยบอกสมาชิกในบ้านว่า เมื่อรับประทานแล้วขอให้แยกเปลือกเอาไว้ใส่กระเช้าพลาสติก เราจะเก็บหอมรอมริบไปทดลองต้มย้อมสีเพื่อทอเป็นผ้าคอลเล็กชั่นผลไม้ไทยดูสักกี่สองกี่

เปลือกมังคุดแช่น้ำค้างคืน



และแล้วก็ได้ฤกษ์งามยามดี ก่อนนอนได้นำเปลือกมังคุดแห้งเทรวมใส่ถังพลาสติก น้ำสะอาดใส่ให้ปริ่ม กวนให้น้ำซึมทั่วทุกเปลือกและปิดฝาทิ้งไว้ เปลือกจะได้นุ่มขึ้นและต้มง่ายในวันพรุ่ง

ซ้าย :rayon            ขวา : ฝ้ายโรงงาน



ตื่นมาเช้าตรู่ นำเส้นฝ้าย 2 ชนิดมาต้มทำความสะอาดก่อน ฝ้ายชนิดแรกคือฝ้ายโรงงาน( cotton 100%) ที่เรียกว่าฝ้ายโรงงานเพราะกระบวนการผลิตปั่นให้เป็นเส้นจากโรงงาน โดยใช้ใยฝ้ายcottonธรรมชาติ ไม่ได้ใช้ฝีมือคนในการเข็นหรือปั่นให้เป็นเส้นอย่างที่บ้านเราเรียกว่าฝ้ายเข็นมือหรือฝ้ายปั่นมือ ภาษาฝรั่งเรียกว่า hand spun cotton....  ฝ้ายอีกชนิดคือฝ้ายซีกวงหรือซีกวาง หรือเรยอน(rayon, viscose) อันนี้ชาวบ้านก็เรียกว่าฝ้าย แต่จริงๆไม่ใช่ฝ้าย มันคือเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ที่ผลิตมาจากต้นไม้ เปลือกไม้ เช่น ไม้ยูคาลิปตัส หรือไม้สน นำมาแช่สารละลายและฉีดออกมาให้เป็นเส้นใย โดยใช้เซลูโลสจากพืชธรรมชาติ เส้นใยนี้ย้อมสีธรรมชาติจะติดง่าย ย้อมครามก็ง่าย ดูดน้ำดี ต่างจากฝ้ายธรรมชาติที่ต้องต้มเอาไขมันฝ้ายออกจากเส้นก่อน มิฉะนั้นเส้นจะด่าง สีซึมไม่ถึงใจกลางเส้น ดีไม่ดีถ้าเอาไปย้อมครามหม้อครามจะพลอยสกปรกไปด้วย

แช่น้ำ



แช่เส้นใยทั้ง 2 ชนิดในกะละมังสัก 15 นาที ระหว่างนี้ต้มน้ำให้เดือดไว้รอต้มล้างไขมัน 1 หม้อ  อีกหม้อก็ต้มเปลือกมังคุดกับน้ำที่แช่ไว้เมื่อคืน 


วกกลับมาที่เส้นใย นำเส้นฝ้ายโรงงานบิดให้สะเด็ดน้ำ นำกิ่งไผ่ยาวสองศอกสอดแทนบ่วง หรี่ไฟหม้อต้ม อย่าให้น้ำเดือดปุดๆ นำฝ้ายลงต้ม ยกขึ้นลง ไปมาจนทั่ว ต้มฝ้ายสักครึ่งชั่วโมงก็เอาขึ้นบิด ตากลมให้เย็น
นำเส้นใยเรยอนมาต้มด้วยวิธีเดียวกับต้มเส้นฝ้ายโรงงาน แต่เนื่องจากเรยอนเส้นสะอาดกว่าจึงใช้เวลาน้อยกว่า สัก 15 นาที่ก็ยกข้ึนบิด ผึ่งลมให้เย็น


ระหว่างรอเส้นใยเย็นลง หม้อต้มเปลือกมังคุดก็เดือดพล่าน คนไปมาให้เปลือกกลับตัว พอต้มได้เวลา 1 ชั่วโมงก็ยกหม้อลง กรองเปลือกออกด้วยตะแกรงมุ้งลวด เปลือกที่ต้มแล้วสามารถนำมาต้มซำ้อีกได้แต่สีจะจืดลง หรือจะนำไปทุบใส่เป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ต่อก็ได้ 
น้ำต้มเปลือกมังคุดเป็นสีน้ำตาลกลางๆ ไม่เข้มมาก หาได้มีสีม่วงเข้มเหมือนเปลือกตอนสดๆ... นำเกลือแกง 2 ช้อนโต๊ะใส่ลงไป คนให้ละลาย นำไปต้มต่อจนเดือดอีกครั้ง


พอน้ำเปลือกมังคุดเดือด กลิ่นหอมเฝื่อนๆฝาดๆเหมือนต้มสมุนไพรประเภทเปลือกไม้  หรี่ไฟลง นำกิ่งไม่ไผ่สอดวงเส้นใยแทนบ่วง จุ่มลงนำ้เปลือกมังคุด ยกขึ้นลง กลับไปมาให้น้ำซึมทั่ว ต้มแช่ไว้  ทุกๆ 5 นาทีทำซ้ำเพื่อให้สีไม่ด่าง รอสัก 45 นาทีก็ดับไฟ แต่แช่เส้นใยไว้ในหม้อก่อน


ระหว่างนี้ จะทำนำ้ปูนใส...ใครยังจำสูตรนี้ได้บ้างจากบทความที่แล้ว???
 วิธีทำคือ น้ำเปล่า 10 ลิตร ต่อปูนขาวหรือปูนแดง 1 ขีด  หากมีน้ำน้อยกว่าหรือมากกว่า ให้ลดหรือเพิ่มเนื้อปูนตามความเหมาะสม แช่ทิ้งไว้ให้ตกตะกอน กรองเอาแต่น้ำที่ใส ใส่กะละมังใหม่ 


เพิ่งย้อมเสร็จ ยังไม่ได้บิดน้ำ




มาที่หม้อน้ำมังคุด น้ำเส้นใยยกขึ้น บิดให้สะเด็ดน้ำ กระตุกเส้นใยให้เรียงเส้น วิธีการคือ เอามือซ้ายและขวาสอดเข้าในวงต่อนฝ้าย พนมมือและกระตุกมือออกแรงๆ ทำซ้ำสัก 5 ครั้ง เศษเปลือกมังคุดจะหลุดออกและเส้นใยจะเรียงตัวกัน ผึ่งลมไว้ให้เย็น เส้นใยจะเป็นสีครีมวนิลา อาจมีเศษเปลือกมังคุดที่เล็กมากๆเป็นสีน้ำตาลดำเกาะอยู่ไม่ต้องกังวลใจ เพราะพอล้างและเส้นแห้งแล้ว กระตุกเส้นอีกสักครั้งสองครั้งจะหลุดออกไปเอง


ผึ่งลมให้เย็นแล้ว




หลังจากแช่น้ำปูนใสแล้วนำมาตากแดด สีเข้มขึ้นทันตา


นำเส้นใยสีครีมมาจุ่มลงในน้ำปูนใส ยกขึ้นลง พลิกซ้ายขวา นวดให้น้ำปูนใสซึมทั่วเส้นใย แช่ไว้สัก 5 นาที น้ำปูนใสจะเปลี่ยนจากสีใสขุ่นเป็นสีครีมและสีน้ำตาลกลาง บิดให้หมาด กระตุกให้เรียงเส้น นำมาตากแดดเพื่อเปลี่ยนสี !!!

เส้นใยจากที่เป็นสีครีมวนิลาพอแช่น้ำปูนใสจะเป็นสีเนื้อเบจ และเมื่อนำไปตากแดดสัก 10 นาทีจะเปลี่ยนเป็นสีโอวัลติน อะเมซิ่งมากๆ  อย่าปล่อยให้เส้นใยแห้งเพราะจะมีเกล็ดปูนขาวเกาะทำให้เส้นใยแข็ง ไม่น่าสัมผัส นำไปล้างน้ำสะอาดออกจนน้ำใส ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำสุดท้าย จากนั้นก็นำไปผึ่งลมในที่ร่ม เมื่อเส้นใยแห้งสีจะจืดลง20 - 30% 


เปรียบเทียบระหว่างส่วนที่ไม่ได้ย้อม(สีขาว) ย้อมแล้ว(สีเนื้อ) ย้อมแล้วและนำไปแช่น้ำปูนใส(สีโอวัลติน)




น้ำต้มเปลือกมังคุด นำมาต้มย้อมได้ต่อ โดยเติมเปลือกมังคุดใหม่ที่แช่น้ำค้างคืนลงไป


ถึงฤดูมังคุดเมื่อไหร่ก็จะมีผ้าสีน้ำตาลอ่อนๆไว้ใช้ไว้ชม...











3 ความคิดเห็น: